พระพุทธมหาธรรมราชา

ประวัติพระพุทธมหาธรรมราชา วัดไตรภูมิ จ.เพชรบูรณ์
เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ สร้างด้วยเนื้อทองสำริด
หน้าตักกว้าง13นิ้ว สูง18นิ้ว ไม่มีฐาน มีพุทธลักษณะ พระพักตร์กว้าง พระโอษฐ์แบะ
พระกรรณยาวย้อนจรดพระอังสะ พระเศียรทรงชฎาเทริดหรือมีกะบังหน้า
ทรงสร้อยพระศอพาหุรัด ทรงประคดเป็นลายสวยงาม สาเหตุที่พระพุทธรูปองค์นี้ มีนามว่า
''พระพุทธมหาธรรมราชา'' เพราะพระวรกายสวมใส่เครื่องประดับของกษัตริย์นักรบโบราณ ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า''พระพุทธมหาธรรมราชา'' พระพุทธมหาธรรมราชาสร้างในราวปี 1600 สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่6หลังจากสร้างเสร็จก็ฉลองกัน 9วัน9คืน
ครั้นเมื่อพระเจ้าชัยวรมันที่7คริงราชสมบัติ ก็ได้พระราชทาน พระพุทธมหาธรรมราชาให้กับ พ่อขุนผาเมือง เพื่อเป็นสัมพันธ์ไมตรีและยังมอบพระราชธิดาพระนามว่า ''นางสุขรมหาเทวี และ
พระราชโอรสพระนามว่า ''กมรเตงอัญศรีทร่ทิตย์ต่อมา พ่อขุนผาเมืองกับพ่อขุนบางกลางหาวได้กอบกู้กรุงสุโขทัยคืนจาก “ขอมสบาดโขลญลำพง” ได้แล้ว พ่อขุนผาเมืองจึงได้สถาปนาให้พ่อขุนบางกลางหาวขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองกรุงสุโขทัย ทำให้นางสุขรมหาเทวี
ไม่พอพระทัย จึงได้โยน “พระพุทธมหาธรรมราชา” ลงแม่น้ำป่าสัก
และพระนางก็ได้กระโดดน้ำตาย
เวลาผ่านไป ได้มีชาวประมงได้ไปหาปลาเวียงแห แต่แล้วก็ได้พบ “พระพุทธมหาธรรมราชา” สถานที่พบนั้นคือ วัดโบสถ์ชนะมาร (ซึ่งวัดโบสถ์ชนะมารในสมัยนั้นยังไม่ได้สร้าง) ซึ่งอยู่ในเขต อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ชาวบ้านเห็นเป็นที่อัศจรรย์ คิดว่าพระพุทธรูปองค์นี้คงเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ จึงช่วยกันนำขึ้นมาจากแม่น้ำป่าสัก หลังจากนั้นได้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้ที่วัดไตรภูมิ พอถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งตรงกับวันสารทไทย ปรากฏว่าพระพุทธมหาธรรมราชาได้หายไปจากวัดไตรภูมิ ทำให้เจ้าอาวาส พระลูกวัด
และชาวบ้านต่างพากันค้นหา
ในที่สุดก็พบ “พระพุทธมหาธรรมราชา” ดำผุดดำว่ายอยู่บริเวณที่พบครั้งแรก จากนั้นเป็นต้นมา ครั้นเมื่อถึงวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 จึงมีการแห่พระพุทธมหาธรรมราชาไปรอบเมือง จนกระทั่งถึงบริเวณหน้าวัดไตรภูมิ จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นตัวแทนของชาวเพชรบูรณ์ จะเป็นผู้อุ้มพระพุทธมหาธรรมราชาลงดำน้ำทั้ง
4 ทิศ ซึ่งถือว่าเป็นสิริมงคลแก่จังหวัด จนกลายเป็นประเพณีอุ้มพระดำน้ำของจังหวัดเพชรบูรณ์ตราบถึงทุกวันนี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น